icon แบ่งปันประสบการณ์ของ SLE ของดิฉันชีวิตที่ผ่านความเป็นความตาย    

#ชีวิตที่ผ่านความเป็นความตาย โรคพุ่มพวง หรือ โรค SLE หายได้จริง ไม่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันจนวันตาย ขอแค่ ตัวปฏิบัติให้ถูกต้อง ดิฉัน น.ส.นิธินันท์ เจริญกิจ ชื่อเล่นตั๊ก อายุ30 ปี บ้านเลขที่ 151/1 ม.1 ต.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด 0854381866 ได้ตรวจเลือด พบ ว่าเป็นโรค SLE 100% ก่อนหน้าที่จะตรวจพบโรค SLE ดิฉันได้ใช้ชีวิตเปลืองมาก คือกินยาลดความอ้วน ดัด ยืม ทำสีผม ทาเล็บต่อเล็บ กินอาหารทุกอย่างไม่เลือก นอนดึก ไม่ค่อยออกกำลังกาย ไม่ได้ดูแลสุขภาพตัวเองเลย จนถึงจุดหนึ่งที่ดิฉันปวดตามข้อ และได้ไปเจาะเลือดตรวจ จนพบว่าเป็นโรค SLE

โรค SLE เป็นได้ทั้งหมด 5 ทาง แต่ตัวดิฉันได้เป็นลงที่ข้อ จึงได้ตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่ คลีนิกเวชกรรมธรรมชาติบำบัด นายแพทย์ สมสินธุ์ ฉายวิจิตร ตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ 2015 ที่ตรวจเจอโรค ทันที พอดิฉันได้รู้ว่าตัวเองเป็นโรค SLE ดิฉันได้ทำการศึกษาข้อมูลของการรักษาโรค SLE อย่างละเอียด ทำให้รู้เลยว่า ถ้าเลือกรักษาตามโรคพยาบาล จะต้องกินยาไปจนวันตาย ไม่มีทางรักษาหายขาด ดิฉันจึงเลือกที่จะรักษากับทางคุณหมอ นายแพทย์ สมสินธุ์ ฉายวิจิตร โดยคุณแม่ของดิฉันทำการปรึกษาการรักษากับคุณหมอ ดิฉันได้มีอาการปวดตามข้อ ไม่สามารถเดินได้แบบปกติ และใช้ชีวิตได้ปกติ เป็นเวลา 6 เดือน เริ่มแรกที่เราทำการรักษา คือ หยุดอาหารทุกอย่าง หยุดสารเคมี ใช้ทุกอย่างที่เป็นธรรมชาติ

กินอาหารเป็นผักปลอดสารพิษ กวางตุ้งต้มน้ำเปล่า กับข้าวกล้อง และน้ำเปล่าวันละ 2 ลิตร ขึ้นไป ทำการดีท็อก เช้าเย็น นอนก่อน 4 ทุ่ม สวดมนต์ทุกคืน อาบน้ำเปล่า แปรงฟันด้วยเกลือ สระผมด้วยมะกรูด ไม่ทาแป้งทาครีม หยุดทุกอย่าง ทำ oil pulling ทุกเช้า ปฏิบัติแบบนี้เป็นเวลา เกือบ 1 ปี และเริ่มออกกำลังกาย อาการดีขึ้นเริ่มปรับเปลี่ยนเรื่องอาหาร และการใช้ชีวิตมากขึ้น ดิฉันไม่ได้ทำการรักษาที่ โรงพยาบาลที่ไหนเลย ดิฉันเข้ารับการรักษาที่ทางคลีนิกเวชกรรมบำบัด นายแพทย์สมสินธุ์ ฉายวิจิตร ที่เดียวเท่านั้น ได้รับการรักษา เวลา 3 ปี

จนทุกวันนี้ได้หายเป็นปกติดี ได้หายขาดจากโรค SLE ไม่ต้องกินยาไปตลอดชีวิต ไม่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับโรค SLE ไปจนวันตาย ต้องขอขอบคุณ ครอบครัวของดิฉัน คุณหมอ นายแพทย์ สมสินธุ์ ฉายวิจิตร พี่ๆพยาบาล และเจ้าหน้าทุกท่าน เพื่อนๆ พี่ น้องๆ ทุกคน ทุกวันนี้ไม่มีวันไหนเลย ที่จะไม่ดูแลตัวเองและไม่ใช้ชีวิตอย่างประมาทอีกเลย ทุกวันนี้ก็ยังทำดีท็อก ดีท็อกไปด้วยกันทุกที่ ต่างประเทศก็ไปค่ะอยู่ทุกวันค่ะ และออกกำลังกาย ดิฉันพร้อมยินดีที่จะให้คำปรึกษา ให้ข้อมูล และขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยทุกท่าน และทุกโรค เราหายได้ ถ้าเราตัดคำไม่มีเวลา ออกไปจากชีวิต เราก็จะมีเวลาดูแลตัวเองทุกที่ทุกเวลาค่ะ


บทความโดย..
นพ.สมสินธู์ ฉายวิจิตร   ศัลยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางเลือก เข้าชม(7361)ครั้ง