พระพุทธองค์ทรงประทานยาอายุวัฒนะไว้ดังนี้ ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ ณ พระวิหารบุพพาราม เมืองสาวัตถี พระเจ้าปเสนทิโกศลเสวยพระกระยาหารมาก ทรงอึดอัด อ่อนเพลีย ง่วงซึม ได้เสด็จเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ทรงทราบอาการของพระราชาแล้ว จึงทรงประทานพระคาถาว่า “มนุษย์ผู้มีสติอยู่ทุกเมื่อ รู้จักประมาณในอาหาร ย่อมมีความสุข และมีอายุยืน “
หลังจากนั้น 500 ปีเศษ บิดาทางการแพทย์ของโลกชื่อ Hippocrates กล่าวว่า “Let Food be the Medicine and Medicine be the Food.” ท่านเป็นคนแรกที่นำการอดอาหารมารักษาโรค ท่านเป็นคนกล่าวประโยคทองว่า “ You are what you eat.”
วันนี้ผมจะมาแนะนำผู้ที่อยากเป็นหนุ่มเป็นสาว 2000 ปี หรือจะพูดว่ากินอย่างไรจึงจะไม่แก่ ไม่ป่วย ไม่ตายง่าย ว่ากันง่ายๆว่าอย่างนั้นนะครับ

1. ดื่มน้ำสะอาดที่อุณหภูมิปกติ (ไม่เย็น ไม่ร้อน) วันละ 10-12 แก้ว โดยเริ่มต้นหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า 2 แก้ว หลังจากนั้น จิบครึ่งแก้วทุกชั่วโมง อย่ารอให้คอแห้ง ปากแห้งแล้วดื่มทีเดียวมากไม่ดีครับ (เลือดจะข้น พิษจะคั่ง ไตทำงานหนัก สมองมึนงงคิดอะไรไม่ออก)
2. รับประทานอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic index) ต่ำ
3. รับประทานผัก 8-10 ส่วนต่อวัน (ประมาณอย่างน้อย 5 กำมือ หรือ ครึ่งกิโลกรัม) หลากหลายสี ตามฤดูกาลและอยู่ในพื้นถิ่นที่อาศัย
4. รับประทานถั่วเปลือกแข็งต่างๆ วันละประมาณ 1 กำมือ
5. รับประทานไข่วันละ 1 ฟอง ในกรณีของผู้ที่ไม่มีปัญหาระดับไขมันในเลือดสูง (ไข่แดงทานได้วันละ 1 ฟอง ส่วนไข่ขาวไม่จำกัด)
6. รับประทานไขมันประเภทกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดชา หรืออาจเป็นน้ำมันที่มีไขมันอิ่มตัวเช่น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น น้ำมันหมู เมื่อรับประทานแล้วควรออกกำลังกายให้พอเหมาะกับตัวเองด้วย
7. รับประทานปลา อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ส่วนเนื้อสัตว์อื่นแนะนำให้รับประทานเนื้อไก่(เลี้ยงด้วยอาหารธรรมชาติ)ไม่ติดมัน
8. หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารหวานและเนื้อแดง โดยไม่ควรทานเกิน สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ตามศาสตร์ชะลอวัย จะต้องหลีกเลี่ยงเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื่องจากได้รับแร่ธาตุเหล็กจากเนื้อแดงที่มากเกินไปจะทำให้เกิดปฏิกิริยา Fenton reaction ในร่างกายมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระ(พิษ) เพิ่มขึ้นทำให้แก่เร็ว นอกจากนี้การบริโภคเนื้อแดงซึ่งมี Arachidonic acid เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนชนิดหนึ่ง จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง โดยจากการศึกษาวิจัยที่ผ่านมาหลายการศึกษาพบว่า การบริโภคเนื้อแดงสัมพันธ์กับการเกิดโรคเบาหวานและมะเร็ง
 ที่พูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องการกินอาหาร(น้ำ)เพื่อชะลอวัย เมื่อเรากินถูกแล้วเราก็จะต้องบูรณาการกับสิ่งอื่นด้วยนะครับอย่าลืมกฎธรรมชาติที่ว่า"ทุกสิ่งอิงอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกัน (สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ,เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี) เมือกินถูก ก็จะต้องมีการพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ(นอนหัวค่ำตื่นแต่เช้า) มีอารมณ์แจ่มใสจิตใจเบิกบาน (ยิ้มและมีความสุขกับสิ่งที่ทำ),แล้วขาดไม่ได้เลยครับการออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ หรือมีสูตรง่ายๆครับ S.E.X , S= sleep  นอนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 7-8 ชม.นอนหลับไม่เกิน 4 ทุ่ม , S= smile ยิ้มแย้มแจ่มใจ
E= eat  กินแต่พอดี (ไม่เกิน 80% ของความอิ่ม) ควบคุมน้ำหนัก X= exercise ออกกำลังกายแต่พอดีสม่ำเสมอครับ.


บทความโดย..
นพ.สมสินธู์ ฉายวิจิตร   ศัลยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางเลือก เข้าชม(15130)ครั้ง



กลับหน้าหลัก